ประวัติความเป็นมาของปราสาท เอดินบะระ  ของประเทศสกอตแลนด์

         หลายคนอาจจะไม่เชื่อว่าประสาทที่มีความสวยงามนั้นจะมีประวัติความเป็นมาที่น่ากลัวถึงแม้ว่าปัจจุบันประสาทส่วนใหญ่ ปราสาท เอดินบะระ จะกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแต่ประวัติความเป็นมาที่น่ากลัวนั้นยังคงมีการเล่าขานต่อๆกันมา

       ซึ่งในบทความนี้เราจะมาพูดถึง ปราสาทเอดินเบิร์กหรือปราสารทเอดินบะระ  โดยปราสาทแห่งนี้ ว่ากันว่าแม้ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เป็นสถานที่ที่มีความสวยงาม แต่ก็ยังเป็นสถานที่ที่น่ากลัวมากที่สุดในโลกอีกด้วย 

        ปราสาทเก่าแก่แห่งนี้มีอายุกว่าพันปีสร้างขึ้นในยุคกลางสมัยศตวรรษที่ 12 ตั้งอยู่บนหินผาที่เคยเป็นภูเขาไฟใจกลางเมืองเอดินบะระเมื่อเดินขึ้นไปยืนบนยอดปราสาทแห่งนี้จะมองเห็นเมืองทั้งเมืองได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียว ทำให้ประสาทแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สวยงามและกลายมาเป็นปราสาทยอดนิยมของสกอตแลนด์

      ปราสาทเอดินบะระเคยถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับพำนักของราชวงศ์แห่งสกอตแลนด์มาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งถึงปี ค.ศ.  1633 ประสาทก็ถูกยึดครองโดยราชวงศ์อังกฤษและถูกเปลี่ยนเป็นป้อมปราการและฐานทัพทางทหารเพื่อป้องกันการโจมตีของเหล่าไวกิ้งในปี  ค.ศ. 1814

กลายเป็นอนุสรณ์สถานชาติต่อมาก็ได้รับการบูรณะซ่อมแซมและเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมความสวยงามของปราสาทแต่ประสาทที่งดงามและได้ชื่อว่าเป็นป้อมปราการที่แข็งแกร่งมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

    แต่ปราสาทแห่งนี้กลับมีเรื่องราวสยองขวัญแขวนไว้แทบจะทุกพื้นที่ในประสาทเช่นถนนรอบปราสาทเคยถูกใช้ฝังศพผู้ที่ตายจากโรคระบาดวิญญาณของเด็กหนุ่มไร้หัวเดินตีกลองไปทั่วประสาทเช่นกันว่าใครได้เผชิญหน้ากับเขาจะเป็นลางร้ายอย่างมาก

เพราะเขาจะปรากฏตัวเมื่อประชาจะถูกโจมตีเท่านั้นวิญญาณในคุกใต้ดินที่ยังส่งเสียงกรีดร้องด้วยความทุกข์ทรมานวิญญาณเลดี้เกิลมิส ที่ถูกเผาทั้งเป็นเพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดยังคงปรากฏ ให้นักท่องเที่ยวผู้โชคดีได้เห็นเป็นบางครั้ง

        แม้จะมีประวัติที่แสนจะน่ากลัวแต่ปราสาทเอดินบะระยังเป็นโบราณสถานทรงคุณค่าภายนอกงดงามเคร่งขรึมด้วยป้อมปราการกำแพงปราสาทแบบโบราณและปืนใหญ่ที่ 1 รายภายในนั้นตกแต่งอย่างงดงามมีพิพิธภัณฑ์ให้ชมมากมายเช่นห้องติดอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารห้องคราว room ห้องเก็บรักษาเครื่องราชกกุธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุด

ในยุโรปซึ่งของศักดิ์สิทธิ์ 3 อย่างได้แก่พระมหาพิชัยมงกุฎ  คฑาและพระแสงดาบ พร้อมด้วยหินซะโครน หรือหินแห่งโชคชะตาที่ใช้ในพิธีบรมราชาภิเษกของกษัตริย์แห่งสกอตแลนด์เสน่ห์อีกอย่างของปราสาทเอดินบะระคือประเพณีการยิงปืนใหญ่ในเวลา 13:00 น ของทุกวันที่ทำมาตลอด 150 ปีที่ผ่านมา 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.    แทงหวยจับยี่กี