ตำนานอสูรกายลึกลับที่เป็นปัญหาและเรายังหาคำตอบไม่ได้

ถึงแม้ว่ามนุษย์จะเป็นสิ่งที่มีชีวิตก็ตาม แถมยังมีจำนวนของคนที่เรียกว่ามากที่สุดก็ได้ วิวัฒนาการยังล้ำหน้าไปไกลมากกว่าสมัยก่อนเยอะแต่เราก็ต้องยอมรับว่ายังมีสัตว์ลึกลับที่ยังอาศัยอยู่บนโลก หรือว่าอาศัยปะปนกับเราอยู่แต่ว่าเราก็ไม่อาจที่จะสามารถทำการพิสูจน์ได้เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่ลึกลับจนเกินไปแต่ว่าก็มีกลุ่นคนที่เล่าเรื่องสิ่งลึกลับเหล่านี้ เรามาดูกันดีกว่าว่าสิ่งลึกลับยที่อยู่รอบตัวอาศัยอยู่ที่ไหน และเป็นอย่างไรบ้าง

  1. Hawkesbury River Monster

ดินแดนที่อยู่ทางตอนใต้อย่างออสเตรเลีย เป็นประเทศที่อยู่ที่ทวีปดึกดำบรรพ์ โดยเหตุนั้นคงจะไม่แปลกถ้าหากจะพบสัตว์ที่ดูเหมือนจะหลงมาจากสมัยไดโนเสาร์ อย่าง ‘อสูรกายที่แม่น้ำ Hawkesbury’ ประเทศ Australia ที่มีข้อมูลคนเห็นมากยิ่งกว่า 100 คน รูปแบบของมันเหมือนไดโนเสาร์ หัวเหมือนงู ความยาวกว่า 35 ฟุต คนเห็นส่วนมากจะมองเห็นมันดำผุดดำว่ายอยู่ใจกลางทะเลสาบ ช่วงเวลาที่พวกเขากำลังตกปลาอยู่ ว่ากันว่ามันมองคล้ายกับ Plesiosaur ไดโนเสาร์ที่สิ้นพันธุ์ไปแล้วมากกว่า 70 ล้านปีก่อน

  1. Mongolian death worm

ในทะเลทรายแห้งทุรกันดาร ยังมีนักล่าที่น่าวสนใจอย่าง หนอนหรือไส้เดือนยักษ์ที่มีสีแดงเดือด เป็นสัตว์ที่อยู่ในเรื่องเล่าของชาวมองโกเลียน ยาวราวๆ 2-5 ฟุต รับประทานสัตว์อื่นเป็นอาหารด้วยการพ่นพิษใส่สิ่งที่มันหมายตา บ้างก็ว่ามันสามารถทำการปลดปล่อยกระแสไฟได้ด้วย (แบบปลาไหลไฟฟ้า) มันมักจะทำการขึ้นมาตอนที่ฝนตกเพียงแค่นั้น โดยมากผู้ที่พบเจอชอบเป็นคนท้องถิ้น ในปี คริสต์ศักราช 2005 ได้มีการจัดภาควิชาตรวจสอบรวมทั้งเรียนรู้เกี่ยวกับหนอนมรณะมองโกเลียอย่างเป็นจริงเป็นจัง แม้กระนั้นไม่เจอหลักฐานของการมีตัวตนของมัน แม้กระนั้นยังไม่หลักฐานที่สามารถที่จะสรุปว่า จะไม่มีมันอยู่จริงที่ส่วนลึกของทะเลทรายโกบี

3.Wendigo

เวนดิโก ตัวประหลาดตามความเชื่อถือของคนท้องถิ้นหลากหลายเผ่าที่อยู่ส่วนของอเมริกาเหนือ ทั้งยังในแคนาดารวมทั้งประเทศสหรัฐอเมริกา รูปร่างเหมือนมนุษย์ครึ่งสัตว์ป่า แม้กระนั้นมีรูปร่างที่ซูบซีดจนกระทั่งมองเห็นกระดูก เป็นอสุรกายที่อยู่ในป่าที่สิงผู้คนให้กินมนุษย์ร่วมกันเป็นอาหาร ซึ่งในการใช้ชีวิตของอินเดียนแดงบางเผ่า มีรูปแบบที่เหมือนกับเวนดิโกอยู่เช่นกัน บ้างก็ว่าตำนานนี้ถูกแต่งขึ้นเพื่อที่จะเป็นการบอกให้นักเดินป่าระวังภัยจากเผ่ากินเนื้อมนุษย์ แต่ว่าตำนานนี้ก็มีมานานมากกว่าก่อนคนขาวจะเข้ามายังดินแดนอเมริกาแล้ว ดังนั้นมันอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีอยู่จริงก็ได้

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  ทดลองเล่นบาคาร่า se