สัตว์ในตำนานที่เกี่ยวข้องกับ ความเชื่อในทางพระพุทธศาสนา

    ความเชื่อในทางพระพุทธศาสนา  เชื่อว่าหลายคนคงมีความรู้และเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องของการพูดถึงสัตว์ในตำนานที่เกี่ยวข้องกับทางพระพุทธศาสนากันมาบ้างแล้วซึ่งปัจจุบันนั้นมีมากมายหลายชนิดที่มีความเกี่ยวพันกับทางพระพุทธศาสนา  โดยบทความนี้เราจะมีการพูดถึงเกี่ยวกับสัตว์ในตำนานที่มีความเกี่ยวพันต่อเนื่องกับพระพุทธศาสนาซึ่งเราจะยกมาทั้งหมด 3 สัตว์ในตำนานด้วยกันมาดูกันว่ามีสัตว์ในตำนานอะไรบ้างที่ปัจจุบันนี้คนก็ยังมีการพูดถึงและให้ความเคารพนับถืออยู่  หรือเราอาจจะยังพบเห็นรูปปั้นสัตว์ในตำนานเหล่านี้อยู่ในสังคมไทยในปัจจุบันเช่นกัน 

ครุฑ

 ครุฑเป็นสัตว์กึ่งเทพในปกรณัมอินเดียและปรากฏในวรรณคดีสำคัญหลายเรื่องตำนานเล่าว่าครุฑเป็นพี่น้องกับนาคแต่ทะเลาะกันจนกลายเป็นศัตรูตามคดีไทยโบราณมีความเชื่อว่ามนุษย์เป็นพยานแห่งนกทั้งมวลและเป็นพาหนะของพระนารายณ์อาศัยอยู่ที่วิมานฉิมพลีมีรูปเป็นครึ่งคนครึ่งนกอินทรีย์มีพละกำลังแข็งแกร่งกล้ามีสติปัญญาเฉียบแหลมอ่อนน้อมถ่อมตนและมีสัมมาคารวะโดยผู้นั้นได้รับพรให้เป็นอมตะไม่มีอาวุธใดทำลายลงได้แม้กระทั่งสายฟ้าของพระอินทร์ก็ทำได้แค่ให้ขนของครุฑหลุดร่วงเพียงแค่เส้นเดียวเท่านั้น

พญานาค

    พญานาคหรือนาค มีลักษณะคล้ายกับงูใหญ่มีหงอนสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ความอุดมสมบูรณ์ความมีวาสนาและยังเป็นสัญลักษณ์ของบันไดสายรุ้งสู่จักรวาลเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเรื่องเล่ามาแต่โบราณปัจจุบันก็ยังมีความเชื่อเรื่องพญานาคอยู่ในภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จึงยังพิสูจน์ไม่ได้แน่ชัดว่ามีอยู่จริงหรือไม่ตามตำนานเชื่อว่าพญานาคคือเทพเจ้าแห่งสายน้ำอาศัยอยู่ในถ้ำหรือบาดาลบางชนิดสามารถพ่นไฟพ่นพิษ

และสามารถแปลงกายเป็นชายหนุ่มได้ด้วยตามคตินิยมของไทยมักจะเห็นนาคในงานจิตรกรรมประติมากรรมหรือเป็นส่วนประกอบที่สำคัญทางสถาปัตยกรรมโดยเฉพาะตามวัดวาอารามศาสนสถานหรือหลังคาอาคารที่สร้างขึ้นสำหรับสถาบันพระมหากษัตริย์ประชุมว่านาคนั้นมีความยิ่งใหญ่คู่ควรกับสถาบันที่สูงส่ง 

   คนธรรพ์

       คนธรรพ์เป็นอมนุษย์พวกหนึ่งตามปกติในศาสนาพุทธและศาสนาฮินดูเชื่อว่ามีกำเนิดจากพระพรหมบ้างก็ว่าเป็นโอรสพระกัศยปเทพบิดรกับนางอริสราคนธรรพ์นั้นมีบ้านเมืองของตัวเองอยู่ระหว่างสวรรค์และโลกมนุษย์มีนิสัยเจ้าชู้มีเสน่ห์ทำให้ผู้หญิงหลงรักมีวาทศิลป์ชั้นเลิศซึ่งเป็นผู้ส่งสารระหว่างเทพกับมนุษย์ควรทานยังมีหน้าที่ปรุงน้ำโสมหรือเหล้าสำหรับเทวดาเสวยและพวกที่อยู่บนสวรรค์ของพระอินทร์มีหน้าที่ขับร้องและเล่นดนตรีบำเรอเทวดาดังนั้นวิชาดนตรีจึงได้ชื่อว่าคนทัณฑวิทยาและคนทำประเวศ

        

สนับสนุนโดย.    huaydee