โพโพบาวา
ในภาษาสวาฮีลี คำว่า โพโพบาวา แปลว่า ปีกค้างคาว ซึ่งชาวบ้านแทนซาเนีย เชื่อว่าสิ่งนี้เกิดมาจากความชั่วร้ายการปรากฎตัวของ โพโพบาวา มันมักจะเกิดขึ้นในตอนกลางคืนและยังได้มีการรายงานการถูกทำร้ายโดยสิ่งนี้มากมาย ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกไปทั่วเกาะเพมบา โดยเรื่องราวของ โพโพบาวา ที่ได้มีขึ้นมาในครั้งแรในช่วงปี1970 ซึ่งบางคนได้เชื่อว่าสิ่งที่เกิดมาจากหัวหน้าเผ่าของหมู่บ้านเกิดโทสะจึงได้ปล่อยวิญญาณร้ายเข้าไปยังหมู่บ้านข้างเคียง
เพื่อการแก้แค้นแต่ในขณะที่หลายคนกับได้เชื่อว่าวิญญาณที่มันกำลังพยาบาทอยู่นั้นเป็นของประธานาธิบาดี อะเบดี คารูเม ที่ถูกลอบสังหารในปี1972 จากคำบอกเล่าของชาวบ้าน ว่าสาเหตุที่ทำให้ โพโพบาวา กลายเป็นวิญญาณร้ายนั้นก็เป็นเพราะผู้คนปฏิเสธถึงการมีอยู่จริงของมัน เมื่อชาวบ้านต่างก็ได้เกิดความหวาดกลังว พวกเขาจึงได้รวมตัวกันในตอนกลางคืนและก็ได้ก่อกองไฟไว้โดยรอบ เพื่อป้องกันปีศาจตนนี้
ชูปาคาบรา
ชูปาคาบราหรือที่เรียกกันว่าตัวดูดเลือดแพะว่ากันว่ามันได้มีลักษณะเหมือนการ์กอยล์ โดยได้มีการรายงานเกี่ยวกับการพบเห็นเป็นครั้งแรกในปี1995ที่เกาะพัวร์โตริโก เมื่อได้มีชาวนาคนหนึ่งพบว่าแกะแปดตัวของเขาตายในสภาพที่เลือดถูกสูบไปจนหมดตัวและทั้งแกะแปดตัวนั้นก็มีรูอยู่สามรูอยู่ที่บริเวณหน้าอกจกาคำบอกเล่าของ แมเดลิน โตเลนติโน ซึ่งเป็นผู้ที่อ้างว่าเคยเห็น ชูปาคาบรา จากนั้นพวกเขาก็ได้มีการสเก็ตช์ภาพตามคำบรรยายรูปพรรณสันฐานของสิ่งมีชีวิตที่เธอพบเธอก้ได้อธิบายถึงลักษณะของมันว่าเป็นสัตว์เดินสองเท้าดวงตาปูดโปนและได้มีสามนิ้วที่ยาวมีขนสีเทาปกคลุมและมีหนามอยู่ที่บริเวณด้านหลัง
ใมนช่วงปี1995มีสัตว์กว่าพันตัวที่ตาย โดยที่เลือดในร่างกายเหือดแห้งจึงได้สันนิษฐานว่ามันอาจจะเป็นฝีมือของ ชูปาคาบรา และเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นได้สร้างความแตกตื่นให้กับชาวบ้านทั่วเกาะถึงแม้ว่าในปัจจุบับนจะยังไม่มีใครรู้ว่า ชูปาคาบรา นั้นมีอยู่จริงหรือไม่ก็ตามและยังได้รวมไปถึง มูโนชวาซึ่งเมื่อในปี2002ได้มีรายงานเกี่ยวกับสิ่งปริศนาที่ชื่อว่า มูโนชวา โดยถูกพบในพื้นที่ชนบทของอินเดียเหยื่อหลายคนได้อธิบายถึงลักษณะของสิ่งปริศนานี้ว่ามันได้มีแสงสว่างมากและจะทำร้ายผู้คนในขณะที่มันกำลังลอยอยู่บนอากาศ
สนับสนุนโดย entaplay เครดิต ฟรี