พรรคคอมมิวนิตส์ทำสงครามกับอังกฤษเป็นเวลายาวนาน

ประเทศอังกฤษได้มีการปิดล้อมเพื่อไม่ให้มีการขนส่งเสบียงอาหารอาวุธยุธโทปกรณ์และยารักษาโครงเข้าไปใมนพื้นที่ของฝ่ายพรรคคอมมิวนิตส์ 

ซึ่งในการล้อมรอบได้เป็นผลความสำเร็จเพราะแม้กระทั่งนายจีนเป็งยังได้ยอมรับอีกว่า ยุธศาสตร์นี้ได้ประสบความสำเร็จเพราะในที่สุดนักรบกองโจรก็ได้ถูกทิ้งเอาไว้ให้โดดเดียวห่างจากแหล่งสนับสนุนรอบด้านที่เคยมี

ในเดือนกรกฎาคม ของปีเดียวกันพวกคอมมิวนิตส์ที่อยู่ในที่มั่นก็ขาดแคลนอาหารอาวุธและกระสุนอย่างหนัก ทหารอังกฤษจึงได้จัดกำลังเข้าโจมตีฐานที่มั่นดังกล่าวจนฐานของทางฝ่ายคอมมิวนิตส์แตกในที่สุดแต่การสู้รบนี้มันก็ยังดำนินการต่อไปถึงแม้ว่ามาเลเซียจะได้รับเอกราชจากอังกฤษ ในปีพุทธศักราช2500แล้วก็ตาม จนถึงปีพุทธศักราช2503 ได้เป็นการรบที่ยื่ดเยื่อกันอย่างยาวนาน 

ซึ่งทางฝั่งของรัฐบาลมาเลเซียจึงได้ออกกฏหมายนิรโทษกรรมให้กับพวกคอมมิวนิตส์ได้ส่งผลทำให้การต่อสู้ได้มีการยุติลงด้านนายจีนเป็งที่เป็นผู้นำของกลุ่มคอมมิวนิตส์ที่ได้หลบซ่อนตัวอยู่ทางตอนเหนือของประเทศตามแนวตะเข็บของประเทศไทยและได้เดินทางเข้าไปยังที่ประเทศจีน สถานการณ์ฉุกเฉินที่มาเลเซียจึงได้มีการสิ้นสุดระยะช่วงนี้กองกำลังของพรรคคอมมิวนิตส์ที่ได้หลบหนีในการปราบปรามของรัฐบาลมาเลเซียก็ได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานปฏิบัติการเคลื่อนไหวตามแนวชายแดนไทยและมาเลเซีย 

โดยได้มีการปรากฎการเคลื่อนไหวในครั้งแรกในพื้นที่ประเทศไทยบริเวณอำเภอเบตง จังหวัดยะลา  และจังหวัดสงขา โดยทางการฝ่ายไทยก็ได้เรียกบุคคลเหล่านี้ว่า “โจนจีนคอมมิวนิตส์มาลายา และได้มีชื่อย่อว่า พคม.” แต่คนไทยส่วนใหญ่มักจะเรียกกองกำลังเหล่านี้ว่า “พวก จคม.นั่นเอง”  ถึงแม้ว่าสถานการภัยคุกครามฉุกเฉินของพวกคอมมิวนิตส์จะสิ้นสุดลงแล้วแต่มันก็ได้เป็นแค่เพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งเพราะในขณะนั้นมาเลเซียจะต้องพบเจอกับภัยคุกครามด้วยกองกำลังจากทหารประเทศเพื่อนบ้านคือ อินโดนีเซีย และในปีต่อมา

ในปีพุทธศักราช2505 ในพื้นที่เกาะบ่อเนียว หลังจากการที่ได้เผชิญหน้ากันระหว่าง

 มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย ได้ยุติลงไปเพียงแค่ปีเดียวพรรคคอมมิวนิตส์มาลายาของของจีนเป็งก็ได้กลับมาอีกครั้งในปีพุทธศักราช2510 คราวนี้ความขัดแย้งมันก็ได้ส่งผลทำให้การสู้รบแนวบริเวณชายแดนด้านเหนือของประเทศที่ได้ติดกับประเทศไทยเป็นระยะเวลายาวนานถึง22ปีข้อมูลจากบทความในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับวันที่24กันยายนพุทธศักราช2556ได้ระบุว่า 

เดิมฝ่ายคอมมิวนิตส์นั้นได้มีกำลังพลอยู่ในประเทศมาเลเซียถึง12กรมก่อนที่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนขนาดของหน่วยลงเหลือเพียงแค่สามกรมและได้หลบลอดเข้ามาในประเทศไทยปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่สะเดาอำเภอนาทวีจังหวัดสงขา และตอนเหนือของรัฐเคด้าและรัฐปาริส

 

สนับสนุนโดย  entaplay casino